สหภาพยุโรปสามารถเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดเหล็กอาบสังกะสีให้กับรัสเซียและตุรกีย้อนหลังได้

สหภาพเหล็กและเหล็กกล้าแห่งยุโรป (Eurofer) กำหนดให้คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มลงทะเบียนการนำเข้าเหล็กที่ทนต่อการกัดกร่อนจากตุรกีและรัสเซีย เนื่องจากคาดว่าปริมาณการนำเข้าจากประเทศเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากเริ่มการตรวจสอบการทุ่มตลาด และการเพิ่มขึ้นนี้คือ มีแนวโน้มว่าจะร้ายแรง ผลกระทบการแก้ไขของภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดที่อ่อนแอลง
คำขอจดทะเบียนของสหภาพยุโรปมีจุดมุ่งหมายเพื่อกำหนดอัตราภาษีย้อนหลังสำหรับเหล็กอาบสังกะสีที่นำเข้าตามสหภาพยุโรปเหล็กและเหล็กกล้า มาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับ "การจัดการปริมาณการนำเข้า"หลังจากที่สหภาพยุโรปเริ่มสอบสวนการทุ่มตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 ปริมาณการนำเข้าก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง"

จำนวนรวมของเหล็กอาบสังกะสีที่นำเข้าจากตุรกีและรัสเซียตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2564 เพิ่มขึ้นสองเท่าจากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019 และเพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2020 (หลังจากเริ่มการสอบสวน)ตามข้อมูลจากสหภาพยุโรป ปริมาณการนำเข้าสังกะสีจากประเทศเหล่านี้ในเดือนสิงหาคมอยู่ที่เกือบ 180,000 ตัน แต่ปริมาณในเดือนกรกฎาคม 2564 อยู่ที่ 120,000 ตัน

จากการคำนวณของ European Steel Union ในช่วงระยะเวลาการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2020 ค่ามาร์จิ้นการทุ่มตลาดของตุรกีจะอยู่ที่ 18% และอัตรากำไรจากการทุ่มตลาดของรัสเซียอยู่ที่ 33%สหภาพแรงงานเชื่อว่าหากไม่ดำเนินมาตรการย้อนหลัง สถานการณ์ของผู้ผลิตในสหภาพยุโรปจะยิ่งแย่ลงไปอีก
ภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดสามารถเรียกเก็บย้อนหลังได้ 90 วันก่อนการดำเนินการตามมาตรการเบื้องต้นที่เป็นไปได้ (คาดว่าในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2565)